เอเสเคียล 33:13-33 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

13. หากเราบอกคนชอบธรรมว่า เขาจะมีชีวิตอยู่แน่นอน แต่แล้วเขาก็วางใจในความชอบธรรมของตนและทำชั่ว การประพฤติชอบธรรมใดๆ ของเขาจะไม่อยู่ในความทรงจำอีก เขาจะตายเพราะความชั่วที่เขาได้ทำ

14. และหากเราบอกคนชั่วว่า ‘เจ้าจะตายแน่’ แต่ถ้าเขาได้หันจากความชั่ว ทำสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรม

15. หากเขาคืนของที่ยึดมาค้ำประกัน หรือสิ่งที่ตนขโมยมา ทำตามกฎหมายต่างๆ ซึ่งทำให้มีชีวิตอยู่และไม่ทำชั่ว เขาจะมีชีวิตอยู่แน่นอน เขาจะไม่ตาย

16. เราจะไม่จดจำบาปใดๆ ที่เขาทำไปแล้วมาปรับโทษเขาอีกเลย เขาได้ทำสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรม เขาจะมีชีวิตอยู่แน่นอน

17. “ถึงกระนั้นพี่น้องร่วมชาติของเจ้าก็ยังกล่าวว่า ‘วิถีทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ยุติธรรม’ วิถีทางของพวกเขาต่างหากที่ไม่ยุติธรรม

18. หากคนชอบธรรมหันจากความชอบธรรมไปทำชั่ว เขาจะตายเพราะความชั่ว

19. และหากคนชั่วหันจากความชั่วไปทำสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรม เขาจะมีชีวิตอยู่เนื่องด้วยเหตุนั้น

20. ถึงกระนั้นพงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เจ้าก็กล่าวว่า ‘วิธีการขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ยุติธรรม’ แต่เราจะพิพากษาเจ้าแต่ละคนตามแนวการประพฤติของเจ้า”

21. ในวันที่ห้าเดือนที่สิบปีที่สิบสองของการตกเป็นเชลย ชายคนหนึ่งซึ่งหนีมาจากเยรูซาเล็มมาบอกข้าพเจ้าว่า “กรุงนั้นแตกแล้ว!”

22. เย็นวันก่อนที่ชายคนนั้นจะมาถึง พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือข้าพเจ้าและทรงรักษาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงหายเป็นใบ้และพูดได้อีก

23. แล้วพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า

24. “บุตรมนุษย์เอ๋ย ประชาชนที่อาศัยอยู่ในซากปรักหักพังของดินแดนอิสราเอลกล่าวว่า ‘อับราฮัมตัวคนเดียวแต่ก็ยังได้ครอบครองดินแดน ส่วนเรามีหลายคนด้วยกันย่อมได้รับดินแดนนี้เป็นกรรมสิทธิ์อย่างแน่นอน’

25. ฉะนั้นจงกล่าวกับพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เนื่องจากเจ้ากินเนื้อซึ่งยังมีเลือดค้างอยู่ และหมายพึ่งบรรดารูปเคารพของเจ้า และทำให้โลหิตตก เช่นนี้แล้วควรหรือที่เจ้าจะได้ครอบครองดินแดน?

26. เจ้าพึ่งดาบ เจ้าทำสิ่งที่น่าชิงชัง และย่ำยีภรรยาของเพื่อนบ้าน เช่นนี้แล้วควรหรือที่เจ้าจะได้ครอบครองดินแดน?’

27. “จงกล่าวแก่พวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด บรรดาคนที่หลงเหลืออยู่ตามซากปรักหักพังจะตายด้วยดาบฉันนั้น ส่วนคนที่อยู่ตามท้องทุ่ง เราจะมอบให้สัตว์ป่าเขมือบกิน และบรรดาคนที่อยู่ตามที่กำบังและถ้ำจะตายด้วยโรคระบาด

28. เราจะทำให้ดินแดนนั้นร้างเปล่า พละกำลังที่น่าภาคภูมิใจของมันจะถึงจุดจบ และภูเขาต่างๆ ของอิสราเอลจะเริศร้างจนไม่มีใครเดินผ่าน

29. แล้วพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์เมื่อเราทำให้ดินแดนนั้นเริศร้างว่าง เปล่า เนื่องด้วยสิ่งที่น่าชิงชังทั้งปวงที่พวกเขาได้ทำ’

30. “ส่วนเจ้า บุตรมนุษย์เอ๋ย พี่น้องร่วมชาติของเจ้าพูดคุยกันถึงเจ้าอยู่ข้างกำแพงและที่ประตูบ้าน เขาพูดกันว่า ‘มาเถิด มาฟังพระดำรัสซึ่งมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า’

31. ประชากรของเรามาหาเจ้าอย่างที่พวกเขามักจะทำ มานั่งอยู่ตรงหน้าเพื่อฟังคำพูดของเจ้า แต่ไม่เคยนำไปปฏิบัติ เขาแสดงความจงรักภักดีด้วยริมฝีปาก แต่จิตใจโลภหวังผลกำไรอธรรม

32. แท้จริง สำหรับเขา เจ้าก็เป็นแค่คนที่ร้องเพลงรักด้วยเสียงไพเราะและเล่นดนตรีเก่งเท่านั้น เพราะเขาฟังคำพูดของเจ้า แต่ไม่ยอมนำไปปฏิบัติ

33. “เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นจริง ซึ่งจะเป็นเช่นนั้นแน่นอน เมื่อนั้นพวกเขาจะรู้ว่ามีผู้เผยพระวจนะในหมู่พวกเขา”

เอเสเคียล 33