เอสเธอร์ 4:5-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

5. เอสเธอร์จึงให้ตามตัวขันทีฮาธาคซึ่งมีหน้าที่รับใช้พระนางและบัญชาให้เขาออกไปพบโมรเดคัยเพื่อไต่ถามถึงสาเหตุและความทุกข์ร้อนของเขา

6. ฮาธาคจึงออกไปพบโมรเดคัยที่ลานเมืองหน้าประตูพระราชวัง

7. โมรเดคัยเล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้น รวมทั้งเรื่องจำนวนเงินที่ฮามานสัญญาจะมอบเข้าพระคลังหลวงเพื่อการทำลายล้างชาวยิว

8. โมรเดคัยยังมอบสำเนาพระราชโองการที่ประกาศในป้อมเมืองสุสาให้ทำลายล้างชาวยิวแก่ฮาธาค กำชับให้นำไปมอบแด่เอสเธอร์และให้ทูลความเป็นไป พร้อมทั้งให้ฮาธาคเร่งพระนางให้เสด็จไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ เพื่อทูลวิงวอนสำหรับพี่น้องร่วมชาติของพระนาง

9. ฮาธาคนำความจากโมรเดคัยกลับไปทูลเอสเธอร์

10. เอสเธอร์สั่งเขาให้กลับมาบอกโมรเดคัยว่า

11. “ข้าราชบริพารและประชาชนทั้งปวงย่อมรู้กฎดีว่า ผู้ใดก็ตามไม่ว่าชายหรือหญิงที่ล่วงล้ำเข้าไปในพระราชฐานชั้นในโดยไม่มีหมายเรียกให้เข้าเฝ้าย่อมมีโทษถึงตาย เว้นแต่กษัตริย์จะทรงยื่นคทาทองคำออกมาโปรด กษัตริย์ไม่ได้ตรัสเรียกข้าพเจ้าเข้าเฝ้ามากว่าสามสิบวันแล้ว”

12. เมื่อมีคนนำคำตรัสของเอสเธอร์มาบอกกับโมรเดคัย

13. โมรเดคัยตอบกลับมาว่า “อย่าคิดว่าเจ้าอยู่ในราชวังนี้แล้วจะเป็นชาวยิวคนเดียวที่รอดพ้นไปได้

เอสเธอร์ 4